ป่วยไมเกรนต้องระวังอาหาร

ไมเกรนอาจจะเป็นโรคประจำตัวของคุณที่เกิดขึ้นกับคุณมาเนิ่นนานแล้ว ซึ่งนอกจากอาการปวดหัวที่รุมเร้าและทำให้รู้สึกน่ารำคาญใจอยู่เสมอแล้ว อาการไมเกรนยังเป็นสิ่งที่ถูกกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบข้างได้โดยง่ายด้วย ทำให้คนที่ป่วยเป็นไมเกรนจำเป็นที่จะต้องมีการดูแลตัวเองให้ดีมากกว่าคนทั่วไป เมื่อใดก็ตามที่ตกอยู่ในภาวะที่จะกระตุ้นให้เกิดอาการไมเกรนขึ้น อาจจะทำให้คุณนั้นอารมณ์เสีย หรือทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานต่างๆลดน้อยลงได้

หนึ่งสิ่งที่เป็นตัวกระตุ้นไมเกรนให้เกิดขึ้นกับคุณได้เป็นอย่างดี ก็คือ การรับประทานอาหาร มีอาหารหลายอย่างที่คนป่วยไมเกรนควรที่จะหลีกเลี่ยง เพราะหากเมื่อใดก็ตามที่คุณรับประทานมันเข้าไปแล้ว อาจจะทำให้อาการไมเกรนที่คุณเป็นอยู่หรือเคยเป็นอยู่กำเริบขึ้นมา และมีอาการที่รุนแรงมากขึ้น

อาการไมเกรนเป็นอาการที่สามารถพบได้ในทุกป่วยแทบทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยู่ในวัยทำงาน เนื่องมาจากว่ามีความเครียดสูงมากกว่าวัยอื่นๆ รวมไปถึงการพักผ่อนที่น้อยหรือกิจกรรมต่างๆที่ทำในระหว่างวันอย่างเข้มข้น ก็ล้วนแต่จะส่งเสริมให้เกิดอาการไมเกรนได้ทั้งสิ้น

 

ป่วยไมเกรนต้องระวังอาหาร

ป่วยไมเกรนต้องระวังอาหารจากที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าอาหารมีส่วนทำให้เกิดการกระตุ้นอาการไมเกรนได้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วการรับประทานอาหารเข้าไปจะไปออกฤทธิ์ที่บริเวณเส้นเลือดของเยื่อหุ้มสมองส่วนนอก หรือเส้นประสาทคู่ที่ 5 ส่วนปลาย ซึ่งจะทำให้เกิดการกระตุ้นอาการปวดศีรษะในสมองได้โดยตรง ดังนั้น ผู้ป่วยไมเกรนจึงจำเป็นจะต้องรับรู้ว่าอาหารประเภทใดที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับผลกระทบต่างๆที่มีต่อร่างกาย

1 สารไทรามีน สารตัวนี้เป็นองค์ประกอบตามธรรมชาติที่มักจะอยู่ในเนื้อสัตว์ที่ผ่านกรรมวิธีในการยืดอายุให้เก็บได้นานมากขึ้น รวมไปถึงอาหารหมักดองที่มีส่วนประกอบของยีสต์ เช่น เนยแข็ง เป็นต้น หากมีการรับประทานสารตัวนี้เข้าไปในร่างกาย ก็จะเร่งทำให้เกิดอาการปวดศีรษะที่รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม

2 แอสปาแตม เป็นสารให้ความหวานที่มีความหวานมากกว่าน้ำตาลปกติถึงประมาณ 200 เท่า ถึงแม้ว่าแอสปาแตมอาจจะไม่ได้มีการรับรองอย่างเป็นทางการว่าจะทำให้เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรน แต่ก็มีรายงานพบว่ามีผู้ป่วยบางรายที่จะเกิดอาการปวดศีรษะเมื่อรับประทานอาหารชนิดนี้เข้าไป

3 ผงชูรส ผงชูรสมักจะแอบแฝงอยู่ในอาหารเกือบทุกชนิด เพราะใส่แล้วจะช่วยเพิ่มต่อมการรับรสของมนุษย์ ทำให้รู้สึกว่าอาหารอร่อยกลมกล่อมมากขึ้น และเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดการหลั่งสารสื่อประสาทบางชนิด หรือไปกระตุ้นเซลล์ของผนังหลอดเลือด ให้หลั่งสารไนตริกออกไซด์ออกมา ซึ่งเป็นผลทำให้หลอดเลือดเกิดการขยายตัว และเกิดเป็นอาการที่ปวดหัวรุนแรงมากขึ้น

4 ไนเตรทไนไตรท์ เป็นสารกันบูดที่นิยมใช้ในอาหารจำพวกรมควัน เช่น ไส้กรอก แฮม เป็นต้น ผู้ป่วยไมเกรนส่วนมากที่ได้รับสารตัวนี้เข้าไปในร่างกายมักจะเกิดอาการปวดศีรษะในทันที หรือบางรายก็อาจจะปวดศีรษะหลังจากรับประทานสารตัวนี้เข้าไปเป็นเวลานานก็ได้ เนื่องจากไนเตรทและไนไตรท์ก็ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของหลอดเลือดเช่นเดียวกัน

5 เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นที่รู้ดีว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเครื่องดื่มที่ส่งผลเสียต่ออวัยวะหลายๆส่วนในร่างกาย รวมไปถึงการกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะได้บ่อยมากขึ้นด้วย เนื่องมาจากในเครื่องดื่มชนิดนี้มีสารบางตัวที่มีผลสำคัญในการที่จะกระตุ้นอาการปวดหัวได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการดื่มไวน์แดงจะยิ่งมีผลอย่างยิ่งสำหรับคนที่ป่วยเป็นโรคไมเกรน

6 คาเฟอีน เป็นสารสำคัญที่พบได้ทั้งในกาแฟ ชา ช็อคโกแลต หรือโคล่า ซึ่งจะมีปริมาณคาเฟอีนแตกต่างกันออกไปตามแต่ละชนิดอาหารหรือเครื่องดื่ม ทั้งนี้ คาเฟอีนมีผลทำให้ร่างกายตื่นตัว และยังไปกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย

คุณจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่จะทำให้เกิดอาการปวดศีรษะเหล่านี้ ซึ่งส่วนสำคัญส่วนหนึ่งก็คือ การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงอาหารในกลุ่มเสี่ยงที่จะมีผลต่อการกระตุ้นหลอดเลือดจนทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ

คำแนะนำอีกหนึ่งข้อที่เราอยากจะฝากไว้ให้กับคนที่มักจะปวดหัวจากไมเกรนบ่อยๆ ก็คือ นอกจากนี้จะต้องควบคุมชนิดอาหารที่รับประทานแล้ว การตรงต่อเวลาก็เป็นสิ่งสำคัญ คุณควรมีการรับประทานอาหารแต่ละมื้อให้ตรงเวลา เพราะการที่ไม่รับประทานอาหารเป็นเวลา ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวดไมเกรนได้เช่นกัน

คนที่ป่วยเป็นไมเกรนต้องควบคุมร่างกายตัวเองให้ปราศจากความเสี่ยงต่อการเกิดการอาการปวดหัวตลอดเวลา เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณปล่อยตัวเอง ไม่ดูแลตัวเองเท่าที่ควร ความอ่อนแอจากโรคนี้จะส่งผลให้คุณเกิดอาการป่วยได้บ่อยๆ จำเป็นต้องมีการรับประทานยาที่เข้นข้นมากขึ้น หรืออาจจะเสียงานเสียการเนื่องมาจากการกำเริบของอาการปวด ที่เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญต่างๆในชีวิตอย่างแน่นอน

เพียงแค่เริ่มดูแลจากการรับประทานอาหารก่อนเป็นอันดับแรก ก็เชื่อว่าจะช่วยให้อาการไมเกรนของคุณดีขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน

 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.xn--22c0cohr1b8cc2cr6npa.com/read/6732

รูปภาพจาก : https://www.freepik.com/free-photo/tired-stressful-woman-posing-with-garbage-her-hair_12607703.htm#query=migrain&position=29